RAID 1 คือการทำ Mirroring หรือการเก็บข้อมูลซ้ำบนฮาร์ดดิสก์ 2 ลูก เพื่อป้องกันข้อมูลสูญหายหากมีดิสก์ลูกใดลูกหนึ่งเสีย เป็นวิธีพื้นฐานที่องค์กรนิยมใช้ เนื่องจากตั้งค่าได้ง่ายและปลอดภัยในระดับหนึ่ง
บทความนี้จะสอนการทำ RAID 1 แบบ Software บน Windows Server 2016, 2019, หรือ 2022 โดยไม่ต้องใช้การ์ด RAID
ข้อกำหนดก่อนเริ่ม
- เครื่องต้องมี ฮาร์ดดิสก์อย่างน้อย 2 ลูก ที่ยังไม่ถูกใช้งาน
- สิทธิ์ผู้ดูแลระบบ (Administrator)
- สำรองข้อมูลก่อนทำการเปลี่ยนแปลงใด ๆ
ขั้นตอนการทำ RAID 1 ด้วย Disk Management
ขั้นที่ 1: ตรวจสอบและเตรียมดิสก์
- คลิกขวาที่ Start → เลือก Disk Management
- ตรวจสอบให้แน่ใจว่ามีดิสก์ 2 ลูกที่สถานะเป็น “Unallocated”
- หากดิสก์ยังไม่ Online: คลิกขวา → เลือก Online
- หากยังเป็น Basic Disk: คลิกขวา → เลือก Convert to Dynamic Disk ทั้งสองลูก
RAID 1 แบบ Software จำเป็นต้องใช้ Dynamic Disk เท่านั้น
ขั้นที่ 2: สร้าง Mirror Volume
- คลิกขวาบนดิสก์ลูกแรก → เลือก New Mirrored Volume
- ระบบจะเปิด “New Mirrored Volume Wizard”
- เลือกดิสก์อีกลูกเพื่อทำ Mirror → กด Add
- ตั้งค่าตัวอักษรไดรฟ์ (Drive Letter) และ File System (แนะนำ NTFS)
- ตรวจสอบสรุป → กด Finish
Windows จะเริ่มซิงค์ข้อมูลระหว่างดิสก์ทั้งสองลูกทันที
ขั้นที่ 3: ตรวจสอบสถานะ
- กลับไปที่หน้าต่าง Disk Management
- คุณจะเห็น Volume ใหม่ที่แสดงว่าเป็น “Mirror”
- คลิกขวา → เลือก Properties เพื่อตรวจสอบสถานะ Synchronization
- หากดิสก์ลูกใดลูกหนึ่งเสีย ระบบจะยังคงทำงานจากอีกลูกทันที
ข้อควรทราบ
รายการ | รายละเอียด |
---|---|
ประสิทธิภาพ | RAID 1 เน้นความปลอดภัย ไม่เน้นความเร็ว |
ความจุ | ใช้ได้เท่ากับดิสก์ลูกเล็กที่สุดเพียงลูกเดียว |
Hot Swap | หากต้องการ Hot Swap แนะนำใช้ RAID Hardware |
Notification | Windows ไม่มีระบบแจ้งเตือน RAID เสีย ต้องตรวจสอบเอง |
Backup | RAID ไม่ใช่ Backup! ควรทำการสำรองข้อมูลแยกต่างหากเสมอ |
ทางเลือกเพิ่มเติม
- หากต้องการ RAID ที่มี Performance สูงกว่า เช่น RAID 5 หรือ RAID 10 → ควรใช้ RAID Controller
- หรือใช้ Storage Spaces (Windows Server 2012 ขึ้นไป) เป็นอีกทางเลือกที่ยืดหยุ่นกว่า Dynamic Disk
แล้วถ้าจะทำ RAID 1 บนดิสก์ที่ติดตั้ง Windows Server (Disk C:) เลย ได้ไหม?
โดยทั่วไป ไม่สามารถทำ RAID 1 แบบ Software บนดิสก์ที่ติดตั้ง Windows Server (Disk C:) ได้โดยตรงผ่าน Disk Management ครับ เพราะ:
เหตุผลหลักที่ "ทำไม่ได้"
- Windows ต้อง บูตจากดิสก์ที่ไม่มีการทำ RAID Software อยู่ก่อน
- ฟีเจอร์
New Mirrored Volume
ใน Disk Management จะ ไม่เปิดให้ใช้กับ System Volume (C:) - ไม่สามารถ Convert ดิสก์ที่มี OS อยู่แล้วให้เป็น Dynamic Disk ได้ง่าย ๆ โดยไม่เสี่ยงต่อการบูตไม่ขึ้น
วิธีที่ “สามารถ” ทำ RAID 1 สำหรับ Disk C:
1. ใช้ RAID 1 แบบ Hardware (แนะนำที่สุด)
ต้องทำ RAID 1 ที่ระดับ BIOS/UEFI หรือบน RAID Controller ก่อน ติดตั้ง Windows
ขั้นตอนคร่าว ๆ:
- ใส่ HDD/SSD 2 ลูกที่เหมือนกันลงเครื่อง
- เข้าหน้า BIOS หรือ RAID Configuration Utility ของเมนบอร์ด/RAID Card
- สร้าง RAID 1 และให้มันแสดงเป็นดิสก์เดียว (Logical Drive)
- ติดตั้ง Windows Server ตามปกติลง Logical RAID Drive
ข้อดี:
- Windows มองเป็นดิสก์ลูกเดียว
- ไม่ต้องกังวลเรื่อง Dynamic Disk
- รองรับ OS และ Boot Partition อย่างสมบูรณ์
2. ใช้ Storage Spaces (กรณีไม่มี RAID Hardware)
ต้องติดตั้ง Windows บนดิสก์ลูกแรก แล้วเพิ่ม RAID ภายหลังบนดิสก์อื่น (ไม่ใช่ C:)
- Storage Spaces ไม่รองรับการทำ Mirroring บน System Volume เช่นกัน
สรุป
การทำ RAID 1 บน Windows Server แบบ Software เป็นวิธีที่ง่ายและประหยัด ช่วยเพิ่มความปลอดภัยของข้อมูลพื้นฐาน เหมาะกับองค์กรหรือผู้ใช้งานที่ต้องการ Redundancy โดยไม่ต้องลงทุนกับอุปกรณ์เพิ่ม
แต่ทำ RAID 1 บนดิสก์ C:\ โดยตรงแบบ Software บน Windows Server = “ทำไม่ได้”
หากคุณต้องการเครื่องเซิร์ฟเวอร์คุณภาพสูง พร้อมบริการตั้งค่า RAID ให้ฟรี
ทีมงาน Limitrack.com พร้อมให้บริการครบวงจร
แอดมิน
www.Limitrack.com