ลูกค้าที่เช่า Server กับทาง Limitrack.com เมื่อต้องการจะ remote เข้ามาใช้งาน server ที่เป็น Windows จำเป็นต้องใช้โปรแกรม Remote Desktop เพื่อควบคุมสั่งการ

ปัญหาโปรแกรม Remote Desktop

โปรแกรม Remote Destop เป็นโปรแกรมที่ติดมากับ Windows ทุกเวอร์ชั่น  แต่ว่าตัวโปรแกรม Remote Desktop ก็มีแยกย่อยหลายเวอร์ชั่น  โดยอิงตามเวอร์ชั่นของ Windows ที่ติดตั้ง

และเนื่องจากเวอร์ชั่นของ Windows ระหว่างเครื่อง Remote และเครื่อง Server ที่แตกต่างกันนี้เอง  ทำให้บางครั้งที่ลูกค้าใช้โปรแกรม Remote Desktop จึงเกิด error บ้าง  หรือเชื่อมต่อไม่ได้บ้าง   วิธีแก้คือ download โปรแกรม Remote Desktop เวอร์ชั่นล่าสุดมาใช้  ลิงค์นี้

Remote Desktop clients
Learn about the different Remote Desktop clients available for all your devices
ลิงค์ download โปรแกรม Remote Desktop เวอร์ชั่นล่าสุดในเวบ Microsoft.com

หรือ download จาก Microsoft Store ลิงค์นี้

Get Microsoft Remote Desktop - Microsoft Store
Download this app from Microsoft Store for Windows 10, Windows 8.1, Windows 10 Mobile, Windows Phone 8.1, Windows 10 Team (Surface Hub), HoloLens. See screenshots, read the latest customer reviews, and compare ratings for Microsoft Remote Desktop.
ลิงค์ download โปรแกรม Remote Desktop เวอร์ชั่นล่าสุดใน Microsoft Store

นอกจากนั้นลูกค้าหลายท่าน  ใช้วิธีติดตั้งโปรแกรม Teamviewer หรือ TightVNC สำรองไว้ในเครื่อง Server  เพื่อเวลาที่ใช้โปรแกรม remote desktop เชื่อมต่อมาไม่ได้   ก็ยังสามารถใช้โปรแกรม Teamviewer หรือ TightVNC เชื่อมต่อได้แทน

ข้อสังเกตุของ Teamviewer และ TightVNC

Teamviewer มี feature ที่ดี  แต่ก็เป็นโปรแกรมที่มีข้อจำกัดหากใช้งานฟรี  ข้อจำกัดที่พบเจอส่วนมากคือ  เมื่อใช้งานนานๆไปแล้ว Teamviewer จะจำกัดการเชื่อมต่อให้แค่ 1 นาทีแล้วก็จะตัด   หากจะหยุดข้อจำกัดนี้ก็จะต้องเสียค่า License ให้ทาง Teamviwer

ส่วน TightVNC ก็มีข้อจำกัดคือ  เครื่อง Server ที่จะ remote นั้นต้องเป็น Public IP เท่านั้น   ลูกค้าไม่สามารถ remote เข้า Server ที่เป็น Internal IP ( NAT ) ผ่าน TightVNC ได้   ซึ่งกรณีนี้ก็จะไม่เหมาะกับลูกค้าที่สร้าง VM ( VPS ) หลายๆตัว

ขอแนะนำ AnyDesk

จากข้อดีข้อเสียของ Remote Desktop , Teamviewer , TightVNC ข้างต้น   บทความนี้ Limitrack จึงขอแนะนำโปรแกรม AnyDesk ที่จะช่วยทำให้ลูกค้าสามารถ remote เข้าเครื่อง Server ได้สะดวกขึ้น

ข้อดี AnyDesk

  • ใช้ฟรี  ตลอดไป
  • รุ่นฟรี  ในะระยะยาวไม่ถูกจำกัดใช้งาน 1 นาที ( Teamviewer จำกัดเรื่องนี้ )
  • ไม่ต้องมี Public IP ก็ remote ได้ ( เหมือน VNC )
  • VM ( VPS ย่อย ) ที่เชื่อมผ่าน NAT ก็สามารถ remote เข้าไปได้
  • รวดเร็ว  ใช้งานง่าย
  • มีระบบรักษาความปลอดภัย
  • ดึงประสิทธิภาพ Native Monitor และ HDMi dummy ได้
  • คุณสมบัติอื่นๆ

ติดตั้ง AnyDesk

ลูกค้า download โปรแกรม AnyDesk ได้ที่หน้าเวบ www.anydesk.com

หลังจากติดตั้งโปรแกรม AnyDesk แล้วจะขึ้นหน้าโปรแกรมดังนี้

หน้าตาโปรแกรม AnyDesk version ปี 2021

ในภาพตัวอย่างข้างบนนี้  แอดมินได้หมายเลข ( Desk ID ) ประจำเครื่อง คือ 357 407 098

หมายเลขนี้  จะเอาไว้ใช้เวลาที่เราต้องการ remote เข้ามาในเครื่องๆนี้นั่นเอง

ทำให้ AnyDesk รันตลอดเวลา ด้วยการ Install AnyDesk ( ต้องทำด้วยครับ ไม่งั๊นจอดำ )

เท่านี้ยังไม่เรียบร้อยนะครับ  เพราะถ้าเราปิดโปรแกรม AnyDesk ก็จะหยุดทำงานไปด้วย   เราก็จะไม่สามารถ remote ผ่าน AnyDesk เข้ามาได้

วิธีแก้คือเราต้อง Install AnyDesk ด้วย  ดังนี้

หน้าตาโปรแกรม AnyDesk version ปี 2022

การ Install AnyDesk จะช่วยป้องกันปัญหาหน้าจอดำด้วยครับ

หากลูกค้ารีโมทเข้า AnyDesk แล้วพบว่าหน้าจอดำ   นั่นคือลูกค้าไม่ได้กดปุ่ม Install AnyDesk ( ดังภาพด้านบนนี้ ) ลงในเครื่องครับ

กดปุ่มสีส้มที่เขียนว่า "Install AnyDesk on this device"

หน้าต่าง Install AnyDesk

หลังจากนั้นกดปุ่ม Accept & Install  คราวนี้ AnyDesk ก็จะรันตลอดเวลาทุกครั้งที่เครื่อง Server นี้ทำงาน

หาก Install AnyDesk เรียบร้อย ปุ่มสีส้มจะหายไปกลายเป็น AnyDesk Status แทน

ตั้ง Password ให้ AnyDesk

ขั้นตอนต่อไปคือ  เราควรตั้ง Password ให้โปรแกรม AnyDesk เครื่องนี้   เพื่อที่เวลาเราทำการ remote เข้ามา  เราใส่ Desk ID กับ Password ก็จะสามารถเข้ามาได้เลย   โดยไม่ต้องรอให้ฝั่ง Server กดปุ่มยอมรับ ( Accept )

วิธีตั้ง Password คือกดปุ่มรูปกุญแจสีดำด้านบน

กดปุ่มรูปกุญแจสีดำ เพื่อตั้ง Password เข้า AnyDesk

ก็จะมีหน้าต่างตั้งค่าความปลอดภัยนี้ขึ้นมา

หน้าต่างตั้งค่าความปลอดภัย

ให้ลูกค้ากดติ๊กถูกหน้าคำว่า "Enable unattended access"

ก็จะมีหน้าต่างตั้ง Password ให้ลูกค้าพิมพ์

ลูกค้าเลือก Password ได้เองตามต้องการ

ลูกค้าพิมพ์ Password ที่ต้องการ  โดยต้องพิมพ์ Password ที่มีตัวพิมพ์ใหญ่  ตัวอักษรพิเศษ  และจำนวนมากกว่า 8 ตัวอักษร   ให้ตรงกันทั้งช่องบนและช่องล่าง

หลังจากนั้นกดปุ่ม Apply

หากตั้ง Password เรียบร้อยก็จะมีติ๊กถูกด้านหน้าคำว่า "Enable unattended access"

หากตั้ง Password เรียบร้อยก็จะมีติ๊กถูกด้านหน้าคำว่า "Enable unattended access"

คราวนี้ก็พร้อมแล้วสำหรับการ remote เข้ามายังเครื่อง Server

ปิดระบบการค้นหา ( Discovery )

ปกติ AnyDesk จะยอมให้เครื่องอื่นสามารถตรวจค้นหา AnyDesk ในวง LAN เดียวกันได้  ( ถึงแม้ว่าจะมี Password ป้องกันไม่สามารถเข้ามาได้ก็ตาม )

ระบบค้นหานี้ทำให้เราไม่มีความเป็นส่วนตัว  และไม่ปลอดภัย  แอดมินจึงแนะนำให้ลูกค้าปิดระบบการค้นหา ( Discovery ) ดังนี้

ปิดระบบการค้นหา ( Discovery )

ลบติ๊กถูก  ด้านหน้าคำว่า  "Search local network for other AnyDesk clients"

เพิ่มติ๊กถูก  ด้านหน้าคำว่า "Exclude this device from discovery"

เพียงเท่านี้   ลูกค้า Limitrack เครื่องอื่นก็จะไม่สามารถรู้ว่าเครื่องนี้ติดตั้ง AnyDesk แล้ว

เริ่ม Remote ใช้งาน

วิธีการ remote ก็เพียงใส่ Desk ID และ Password ของเครื่องที่เราต้องการจะ remote เข้าไป  คล้ายๆ Teamviewer  นั่นเอง

พร้อมใช้งาน AnyDesk

ปรับแต่งความคมชัดสูง ( แต่ Net จะหน่วง )

แนะนำลูกค้าปรับตั้งค่า  เพื่อให้หน้าจอที่ remote มีความคมชัดและสวยงาม  ดังนี้

ตัวอย่างการตั้งค่าเมนู เพื่อความคมชัดของหน้าจอ remote
  1. เลือก View Mode เป็น Original
  2. เลือก Quality เป็น Best audio/video quality
  3. เอาติ๊กถูกด้านหน้า "Detect connection speed" ออก
ปรับขนาด resolution ของหน้าจอ

4. ปรับขนาด Resolution ของหน้าจอ  ให้พอเหมาะกับจอของเครื่องที่ลูกค้า remote

เท่านี้  AnyDesk ก็จะช่วยให้การ remote เข้า server ของลูกค้า  สะดวกและน่าใช้ขึ้นครับ

แต่ข้อเสียที่อาจจะตามมาคือ  ภาพจะหน่วงๆ   ไม่ลื่นไหล

วิธีแก้คือ ปรับให้ความคมชัดต่ำลง

ปรับแต่งความคมชัดต่ำ ( ภาพจะลื่น ไม่หน่วง )

โดยตั้งเมนู Quality เป็น Optimize reaction time

และติ๊กถูกที่หน้า Detect connection speed

ผลที่ได้คือ  ภาพจะแตกๆหน่อย   แต่การเลื่อน mouse , click , กด keyboard จะรวดเร็วมาก  ( ไม่เกิดอาการหน่วงอีก )

ปัญหา 1 : ทำไมไม่ได้เลข AnyDesk ID ?

บางครั้งติดตั้ง AnyDesk แล้วไม่ขึ้นเลข AnyDesk ID มาให้ ดังภาพนี้

ติดตั้ง AnyDesk แล้วไม่ขึ้นเลข AnyDesk ID มาให้

สาเหตุ 1. ปัญหาเกิดจากลูกค้าไม่ได้กดยอมรับ Allow Firewall ตอนขณะติดตั้ง AnyDesk

วิธีแก้ 1. เข้าไปใน Windows Firewall แล้วกดติ๊กถูกให้ Allow AnyDesk ดังภาพ

กรณีที่ไม่ได้เลข AnyDesk ID มา แก้โดยการเข้าไปใน Windows Firewall แล้วกดติ๊กถูกให้ Allow AnyDesk

สาเหตุ 2. เวลาในเครื่อง Server ไม่ตรงกับความจริง  ทำให้ request ID ไม่สำเร็จ

วิธีแก้ 2. เข้าไปตั้งค่า Adjust date and time ใน Setting ของ Windows แล้วกดปุ่ม Sync Now ( ดังภาพ )

หลังจากนั้นหยุดการทำงานโปรแกรม AnyDesk แล้วเปิด AnyDesk ขึ้นมาใหม่ก็จะได้เลข AnyDeskID

ปัญหา 2 : ทำไมรีโมท AnyDesk แล้วภาพค้างที่คำว่า Waiting for Image. ?

ค้างที่หน้านี้ สาเหตุเกิดจาก Server เครื่องนั้นไม่มี VGA

สาเหตุเกิดจาก Server เครื่องนั้นไม่มี VGA เช่น ซีพียู Ryzen บางรุ่น , Intel Core I บางรุ่น และ Xeon ทุกรุ่น  ซีพียูเหล่านี้จะไม่มี VGA on Chip หากไม่มี VGA onboard หรือลูกค้าไม่ใส่ VGA Card เพิ่ม   ก็จะรีโมทผ่าน AnyDesk ไม่สำเร็จ  โดยจะค้างที่คำว่า Waiting for image. ( ดังภาพ )

แก้ไขได้ 3 ทาง ( เลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง )
1. เลือก Server ที่มี VGA onboard หรือ VGA on Chip
2. ใส่ VGA Card เพิ่ม
3. รีโมทผ่าน Microsoft Remote Desktop แทน

คำถาม/ข้อสงสัย

หากลูกค้ามีคำถามหรือข้อสงสัย  สามารถถามได้ทาง inbox เพจเฟสบุ๊คของลิมิแทรค ได้ตลอด 24 ชม.

ขอบคุณลูกค้าที่อ่านบทความนี้จนจบนะครับ

ฝ่าย Support ลิมิแทรค
www.Limitrack.com